วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

10อับดับลูกฟรีคิก



อ้างอิงจาก : https://www.youtube.com/watch?v=qNTQz6V1434

ประวัติฟุตบอล ความเป็นมาของฟุตบอล

ประวัติฟุตบอล – ฟุตบอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีผู้สนใจที่จะชมการแข่งขันและเข้าร่วมเล่นมากที่สุดในโลก ชนชาติใดเป็นผู้กำเนิดกีฬาชนิดนี้อย่างแท้จริงนั้นไม่อาจจะยืนยันได้แน่นอน เพราะแต่ละชนชาติต่างยืนยันว่าเกิดจากประเทศของตน แต่ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศอิตาลี ได้มีการละเล่นชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ซูเลอ” (Soule) หรือจิโอโค เดล คาซิโอ (Gioco Del Calcio) มีลักษณะการเล่นที่คล้ายคลึงกับกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน ทั้งสองประเทศอาจจะถกเถียงกันว่ากีฬาฟุตบอลถือกำเนิดจากประเทศของตน อันเป็นการหาข้อยุติไม่ได้ เพราะขาดหลักฐานยืนยันอย่างแท้จริง ดังนั้น ประวัติของกีฬาฟุตบอลที่มีหลักฐานที่แท้จริงสามารถจะอ้างอิงได้ เพราะการเล่นที่มีกติกาการแข่งขันที่แน่นอน คือประเทศอังกฤษเพราะประเทศอังกฤษตั้งสมาคมฟุตบอลในปี พ.ศ. 2406 และฟุตบอลอาชีพของอังกฤษเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2431
ประวัติฟุตบอล
วิวัฒนาการด้านฟุตบอลจะเป็นไปพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ตลอดมา ต้นกำเนิดกีฬาตะวันออกไกลจะได้รับอิทธิพลมาจากสงครามครั้งสำคัญๆ เช่น สงครามพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ได้นำเอา “แกลโล-โรมัน” (Gello-Roman) พร้อมกีฬาต่างๆ เข้ามาสู่เมืองกอล (Gaul) อันเป็นรากฐานส่วนหนึ่งของกีฬาฟุตบอลในอนาคต และการเล่นฮาร์ปาสตัม (Harpastum) ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นกีฬาซูเลอ

วิวัฒนาการของฟุตบอล

ภาคตะวันออกไกล
ขงจื้อได้กล่าวไว้ในหนังสือ “กังฟู” เกี่ยวกับกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่ใช้เท้าและศีรษะในสมัยจักรพรรดิ์ เซิงติ (Emperor Cneng Ti) (ปี 32 ก่อนคริสตกาล) มีการเล่นกีฬาที่คล้ายกับฟุตบอลซึ่งเรียกว่า”ซือ-ซู” (Tsu-Chu) ซึ่งหมายถึงการเตะลูกหนังด้วยเท้า กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ซึ่งนักประพันธ์และนักประวัติศาสตร์ในสมัยนั้นได้ยกย่องผู้เล่นที่มีชื่อเสียงให้เป็นวีรบุรุษของชาติ และในสมัยเดียวกันได้มีการเล่นคล้ายฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ภาคตะวันออกกลาง
ในกรุงโรม ความเจริญของตะวันออกไกลได้แผ่ขยายถึงตะวันออกกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอิทธิพลของสงคราม โดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช การเล่นกีฬาชนิดหนึ่งเรียกว่า ฮาร์ปาสตัม เป็นกีฬาที่นิยมของชาวโรมันและชาวกรีกโบราณวิธีการเล่นคือ มีประตูคนละข้าง แล้วเตะลูกบอลไปยังจุดหมายที่ต้องการ เช่น จากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง การเล่นจะเป็นการเตะ หรือการขว้างไปข้างหน้าฮาร์ปาสตัม หมายถึงการเหวี่ยงไปข้างหน้า การเล่นกีฬาฮาร์ปาสตัมในกรุงโรมดูเหมือนจะเป็นต้นกำเนิดของกีฬาซึ่งมีการเล่นในสมัยกลาง
ในการเล่นฮาร์ปาสตัม ขนาดของสนามจะเล็กกว่าสนามกีฬาซูเลอ แต่จุดประสงค์ของกีฬาทั้งสองคือ การนำลูกบอล ไปยังแดนของตน แต่เนื่องจากมีเสียงอึกทึกโครมครามจากการวิ่งแย่งลูกบอล ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มากมาย อันเป็นข้อห้ามของพระเจ้า จึงมีพระบรมราชโองการในนามของพระเจ้าแผ่นดินห้ามเล่นกีฬาดังกล่าวในเมือง ผู้ฝ่าฝืนมีโทษถึงจำคุก นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามซึ่งออกในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.1892 ขอให้เล่นยิงธนูในวันฉลองต่าง ๆ แทนการเล่นเกมฟุตบอล
ในโอกาสต่อมากีฬาฟุตบอลได้จัดให้มีการแข่งขันกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างทีมต่างๆ ที่อยู่ห่างกันประมาณ 3-4 ไมล์ ( 5-6.5 กิโลเมตร) ในปี พ.ศ. 2344 กีฬาชนิดนี้ได้ขัดเกลาให้ดีขึ้น มีการกำหนดจำนวนผู้เล่นให้เท่ากันในแต่ละข้าง ขนาดของสนามอยู่ในระหว่าง 80 – 100 หลา (73-91 เมตร) และมีประตูทั้งสองข้างที่ริมสุดของสนามซึ่งทำด้วยไม้ 2 อัน ห่างกัน 2-3 ฟุต
ในปี พ.ศ. 2366 ได้จัดให้มีการเล่นฟุตบอลในรูปแบบของการเล่นใน ปัจจุบัน William Alice คือผู้เริ่มวางกฎบังคับต่างๆ สำหรับกีฬาฟุตบอลและรักบี้ ในปี พ.ศ. 2393 ได้มีการออกระเบียบและกฎของการเล่นไปสู่ ดินแดนต่างๆ ให้ปฏิบัติตาม โดยจำกัดจำนวนผู้เล่นให้มีข้างละ 15-20 คน
ในปี พ.ศ. 2413 มีการกำหนดผู้เล่นให้เหลือข้างละ 11 คน โดยมีผู้เล่นกองหน้า 9 คน และผู้เล่นรักษาประตู 2 คน โดยผู้รักษาประตูใช้เท้าเล่นเหมือน 9 คนแรกจนกระทั่งให้เหลือผู้รักษาประตู 1 คน แต่อนุญาตให้ใช้มือจับลูกบอลได้ในปี พ.ศ. 2423
ในปี พ.ศ. 2400 สโมสรฟุตบอลได้ก่อตั้งเป็นครั้งแรกที่เมืองเซนพัสด์ประเทศอังกฤษ และต่อมาในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2406 สโมสรฟุตบอล 11 แห่งได้มารวมกันที่กรุงลอนดอนเพื่อก่อตั้งสมาคมฟุตบอลขึ้น ซึ่งถือเป็นรากฐานในการกำเนิดสมาคมแห่งชาติ จนถึง 140 สมาคม และทำให้ผู้เล่นฟุตบอลต้องเล่นตามกฎและกติกาของสมาคมฟุตบอล จนเวลาผ่านไปจากคำว่า Association ก็ย่อเป็น Assoc และกลายเป็น Soccer ขึ้นในที่สุด ซึ่งนิยมเรียกกันในประเทศอังกฤษ แต่ชาวอเมริกันเรียกว่า Football หมายถึง American football
ภายนอกเกาะอังกฤษ พวกกะลาสีเรือ ทหาร พ่อค้า วิศวกร หรือแม้แต่นักบวชได้นำกีฬาชนิดนี้ไปเผยแพร่ ประเทศเดนมาร์กเป็นประเทศที่ 2 ในยุโรป
ในอเมริกาใต้ สโมสรแรกได้ถูกตั้งขึ้นในประเทศอาร์เจนตินา เมื่อพี่น้องชาวอังกฤษ 2 คน ได้ลงข้อความโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของเมืองบูเอโนสไอเรส (Buenos Aires) เพื่อ หาผู้อาสาสมัคร ในปี พ.ศ. 2427 กีฬาฟุตบอลก็กลายมาเป็นวิชาหนึ่งในโรงเรียนของเมืองบูเอโนสไอเรส การแข่งขันระดับชาติครั้งแรกในทวีปอเมริกาใต้ คือ การแข่งขันระหว่างอาร์เจนตินากับอุรุกวัย ในปี พ.ศ.2448 แต่อเมริกาเหนือเริ่มแข่งขันเมื่อปี พ.ศ. 2435
ในอิตาลี ฮาร์ปาสตัมเป็นต้นกำเนิดจิโอโค เดล คาลซิโอ ผู้เล่นกีฬาจะเป็นผู้นำทางสังคม หรือแม้แต่ผู้นำชั้นสูงของศาสนา เช่นสันตปาปา เกลาเมนต์ที่ 7 ลีออนที่ 10 และเออร์เบนที่ 7 เป็นถึงแชมเปี้ยนในกีฬาฟลอเรนไทน์ฟุตบอล ต่อมาชาวโรมันได้ดัดแปลงเกมการเล่นฮาร์ปาสตัมเสียใหม่ โดยกำหนดให้ใช้เท้าแตะลูกบอลเท่านั้น ส่วนมือให้ใช้เฉพาะการทุ่มลูกบอล ซึ่งนักรบชาวโรมัน นิยมเล่นกันมาก
กีฬาฮาร์ปาสตัมซึ่งมีต้นกำเนิดจากสมัยโรมันได้ถูกแปลงมาเป็นกีฬาซูลอหรือซูเลอ กีฬาชนิดนี้เหมือนกับฮาร์ปาสตัม คือ นำลูกบอลกลับไปยังแดนของตน แต่สนามมีขนาดกว้างกว่ามาก
การเล่นซูเลอมักจะมีขึ้นในบ่ายวันอาทิตย์หลังการสวดมนต์เย็น จะมีการแข่งขันสำคัญในช่วงเวลาดีคาร์นิวาล กีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมมากในเขตปริตานีและมอร์ลังดี กีฬานี้ได้ถูกเผยแพร่ไปยังอังกฤษโดยผู้ติดตามของวิลเลี่ยมผู้พิชิตภายหลัง การรบที่เฮสติ้ง (Hasting)
เมื่อ 900 ปีกว่ามาแล้ว ประเทศอังกฤษได้ตกอยู่ในความปกครองของพวกเคนส์ เชื้อสายโรมัน ซึ่งยกกองทัพมาตีหมู่เกาะอังกฤษตอนใต้ และได้ปกครองเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 1589 อังกฤษเริ่มเข้มแข็งขึ้น และสามารถขับไล่พวกเคนส์ออกจากประเทศได้ หลังจากนั้น 2-3 ปี อังกฤษจึงเริ่มปรับปรุงประเทศเป็นการใหญ่ มีการขุดอุโมงค์ตามพื้นที่หลายแห่ง ซึ่งในการขุดอุโมงค์คนงานคนหนึ่งได้ขุดไปพบกะโหลกศีรษะในบริเวณที่เคยเป็นสนามรบ และเป็นที่ฝังศพของพวกเคนส์มาก่อนทุกคนในที่นั้นแน่ใจว่าเป็นกะโหลกศีรษะของพวกเคนส์ อารมณ์แค้นจึงเกิดขึ้นทันทีเมื่อต่างคนต่างคิดถึงเหตุการณ์ที่ถูกพวกเคนส์กดขี่ทารุณจิตใจคนอังกฤษในสมัยนั้นด้วยเหตุผลนี้ คนงานคนหนึ่งจึงเตะกะโหลกศีรษะนั้นทันที ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นก็พากันหยุดงานชั่วคราว แล้วหันมาเตะกะโหลกศีรษะเป็นการใหญ่ เพื่อระบายอารมณ์แค้นที่เก็บไว้อย่างสนุกสนาน ผลที่สุดเมื่อพวกนี้หากะโหลกศีรษะเตะกันไม่ได้ก็เอาถุงลมของวัวมาทำเป็นลูกกลมขึ้นเตะแทนกะโหลกศีรษะ ปรากฏว่าเป็นที่รื่นเริงสนุกสนามกันมาก ต่อมาชาวโรมันได้นำเกมนี้ไปเล่นในอังกฤษ จากนั้นชาวอังกฤษก็ได้ปรับปรุงวิธีการเล่น เทคนิคการเล่น ตลอดจนกติกาให้เหมือนในสมัยปัจจุบัน คือเกมฟุตบอลที่ใช้เท้าเล่น แต่ในระยะแรกของการเล่นฟุตบอลจะเล่นกันเป็นกลุ่มๆ เฉพาะพวกคนธรรมดาเท่านั้น ไม่มีการจำกัดจำนวนผู้เล่น ประตูจะห่างกันเป็นไมล์ และใช้เวลาในการเล่นหลายชั่วโมง จะเป็นการเล่นระหว่างทหารใหม่ที่ถูกเกณฑ์ นักบวช คนที่แต่งงานแล้ว คนโสด และพวกพ่อค้า เกมชนิดได้กลายเป็นสิ่งฉลองในงานพิธีต่างๆ เช่น ในวันโชรพ ทิวส์เดย์ (Shrove Tuesday) จะมีฟุตบอลนัดสำคัญให้คนได้ชม เกมในสมัยนั้นจะเล่นกันอย่างรุนแรงและมีการบาดเจ็บกันมาก
ในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 1857 พระเจ้าเอ๊ดเวิร์ดที่ 2 ได้ทรงออกพระราชกฤษฎีกา เนื่องจากมีเสียงอึกทึกครึกโครมจาการวิ่งแย่งลูกบอล ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุมากมาย อันเป็นข้อห้ามของพระเจ้า โดยห้ามเล่นกีฬาดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุก
ฟุตบอลได้เริ่มแข่งขันภายใต้กฎของสมาคมแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2412 ระหว่างทีมรัตเกอร์กับทีมบรินท์ตัน จากนั้นกิจการฟุตบอลได้เจริญขึ้นช้าๆ ในต่างจังหวัดจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการตั้งสมาคมฟุตบอลต่างจังหวัดขึ้นในปี พ.ศ. 2450 และมีการฝึกสอนในปี พ.ศ. 2484
ในทวีปเอเชีย
อินเดียเป็นประเทศแรกที่เริ่มเล่นฟุตบอล ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยกัลกัตตา เป็นผู้นำสำเนากฎหมายการเล่นมาเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2426 และในปี พ.ศ. 2435 ได้มีการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลเป็นครั้งแรก ในทวีปซึ่งยังไม่มีชื่อเสียงในด้านการเล่นฟุตบอล กีฬาชนิดนี้ก็ได้เริ่มมีการเล่นมาก่อนร่วมร้อยปีแล้ว เช่น สมาคมฟุตบอลแห่งนิวเซาท์เวลส์ ได้ถูกตั้งขึ้นในออสเตรเลีย ปี พ.ศ. 2425 และสมาคมฟุตบอลของนิวซีแลนด์ได้ถูกตั้งขึ้นหลังจากนั้น 9 ปี
ในแอฟริกา
สมาคมระดับชาติแห่งแรกได้ถูกตั้งขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ แต่อียิปต์เป็นประเทศแรกที่มีการแข่งขันระดับชาติในปี พ.ศ. 2467 คือ 3 ปี หลังจากที่ได้ก่อตั้งสมาคมขึ้น และอียิปต์สามารถเอาชนะฮังการีได้ 3-0 ในกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส
การแข่งขันระดับชาติเป็นการแข่งขันระหว่างอังกฤษกับสกอตแลนด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2415 และในปีแรกของศตวรรษที่ 20 โดยประเทศยุโรปอื่นๆ อย่างไรก็ตามในปี พ.ศ. 2447 กลุ่มประเทศต่างๆ ในแถบนี้ได้ประชุมกันที่ปารีสเพื่อตั้งสมาคมฟุตบอลนานาชาติขึ้น ในครั้งแรกก่อนการจัดตั้งสหพันธ์ 20 วัน สเปนและเดนมาร์กไม่เคยร่วมการแข่งขันระดับชาติมาก่อน และ 3 ประเทศใน 7 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมยังไม่มีสมาคมฟุตบอลในชาติของตน แต่ฟีฟ่าก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยมา โดยมีสมาชิก 5 ชาติ ในปี พ.ศ. 2481 และ 73 ชาติ ในปี พ.ศ. 2493 และในปัจจุบันมีสมาชิกถึง 146 ประเทศ ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมของฟีฟ่า ทำให้ฟีฟ่าเป็นองค์การกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สมาพันธ์ประจำทวีปของสมาคมฟุตบอลแห่งแรกที่ตั้งขึ้นคือ Conmebol ซึ่งเป็นสมาพันธ์ของอเมริกาใต้ สมาพันธ์นี้ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อจัดตั้งเพื่อจัดการแข่งขันชิงชนะเลิศภายในทวีปอเมริกาใต้ ในปี พ.ศ. 2460 เกือบครึ่งศตวรรษ ต่อมาเมื่การแข่งขันภายในทวีปได้แพร่หลายมากขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งสมาพันธ์ในทวีปอื่นๆ ขึ้นอีกคือสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป ในปี พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการจัดตั้งในทวีปเอเชีย และ 2 ปี ก่อนการจัดตั้งสมาคมฟุตบอลยุโรป ในปี พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการจัดตั้งสหพันธ์ฟุตบอลแห่งแอฟริกา (Concacaf)หรือสหพันธ์ฟุตบอลแห่งอเมริกากลาง อเมริกาเหนือ และแคริบเบี้ยน ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 และน้องใหม่ในวงการฟุตบอลโลกคือ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งโอเชียนเนีย (Oceannir)

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Federation International Football Association FIFA) ก่อตั้งขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2447 โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศฝรั่งเศส และประเทศที่เข้าร่วมก่อตั้ง 7 ประเทศคือ ฝรั่งเศส เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สเปน สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สมาพันธ์ฟุตบอลที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ
1.) Africa (C.A.F.) เป็นเขตที่มีสมาชิกมากที่สุด ได้แก่ ประเทศแอลจีเรีย ตูนิเซีย แซร์ ไนจีเรีย และซูดาน เป็นต้น
2.) America-North and Central Caribbean (Concacaf) ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก คิวบา เอติ เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และฮอนดูรัส เป็นต้น
3.) South America (Conmebol) ได้แก่ ประเทศเปรู บราซิล อุรุกวัย โบลิเวีย อาร์เจนตินา ชิลี เวเนซุเอลา อีคิวเตอร์ และโคลัมเบีย เป็นต้น
4.) Asia (A.F.C.) เป็นเขตที่มีสมาชิกรองจากแอฟริกา ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง เลบานอน อิสราเอล อิหร่าน จอร์แดน และเนปาล เป็นต้น
5.) Europe (U.E.F.A.) เป็นเขตที่มีการพัฒนามากที่สุด ได้แก่ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮังการี อิตาลี สกอตแลนด์ รัสเซีย สวีเดน สเปน และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น
6.) Oceania เป็นเขตที่มีสมาชิกน้อยที่สุดและเพิ่งจะได้รับการแบ่งแยก ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิจิ และปาปัวนิวกินี เป็นต้น ซึ่งประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกต้องเสียค่าบำรุงเป็นรายปี ปีละ 300 ฟรังสวิสส์ หรือประมาณ 2,400 บาท
สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย
ในทวีปเอเชียมีการจัดตั้งสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเอเชีย (A.F.C.) เพื่อดำเนินการด้านฟุตบอล ดังนี้
  • พ.ศ. 2495 มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากประเทศในเอเชียเข้ามาร่วมการแข่งขันด้วย จึงได้ปรึกษาหารือกันในการจัดตั้งสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียขึ้น
  • พ.ศ. 2497 มีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ก็ได้เริ่มตั้งคณะกรรมการจากชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก 12 ประเทศ
  • พ.ศ. 2501 มีการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก และมีประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกรวมเป็น 35 ประเทศ
  • พ.ศ. 2509 ฟีฟ่าได้มองเห็นความสำคัญของ A.F.C. จึงได้กำหนดให้มีเลขานุการประจำในเอเชีย โดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด รวมทั้งเงินเดือน และคนแรกที่ได้รับตำแหน่งคือ Khow Eve Turk
  • พ.ศ. 2517 ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่เตหะราน ประเทศอิหร่านได้มีการประชุมประเทศสมาชิก A.F.C. และที่ประชุมได้ลงมติขับไล่อิสราเอล ออกจากสมาชิก และให้จีนแดงเข้าเป็นสมาชิกแทน ทั้งๆ ที่จีนแดงไม่ได้เป็นสมาชิกของฟีฟ่า นับว่าเป็นการสร้างเหตุการณ์ที่ประหลาดใจให้กับบุคคลทั่วไปเป็นอย่างมากทั้งนี้เนื่องจากเหตุผลทางการเมือง
  • พ.ศ. 2519 มีการประชุมกันที่ประเทศมาเลเซีย ปรากฏว่าประเทศสมาชิกได้ลงมติให้ขับไล่ประเทศไต้หวันออกจากสมาชิก และให้รับจีนแดงเข้ามาเป็นสมาชิกแทน ทั้งๆ ที่ไต้หวันเป็นประเทศที่ร่วมกันก่อตั้งสหพันธ์ขึ้นมา
งานของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย
– ดำเนินการจัดการแข่งขันและควบคุม Asian Cup
– ดำเนินการจัดการแข่งขันและควบคุม Asian Youth
– ดำเนินการจัดการแข่งขันและควบคุมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
– ดำเนินการจัดการแข่งขันและควบคุม Pre-Olympic
– ดำเนินการจัดการแข่งขันและควบคุม World Youth
– ควบคุมการแข่งขัน Kings Cup, President Cup, Merdeka, Djakarta Cup
นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากฟีฟ่าจัดส่งวิทยากรมาช่วยดำเนินการ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ wikipedia

สรุปวิวัฒนาการของฟุตบอล

ก่อนคริสตกาล – อ้างถึงการเล่นเกมซึ่งเปรียบเสมือนต้นฉบับของกีฬาฟุตบอลที่เก่าแก่ที่ได้มีการค้นพบจากการเขียนภาษาญี่ปุ่น-จีน และในสมัยวรรณคดีของกรีกและโรมัน
ยุคกลาง – ประวัติบันทึกการเล่นในเกาะอังกฤษ อิตาลี และฝรั่งเศส
  • ปี พ.ศ. 1857 – พระเจ้าเอ๊ดเวิร์ดที่ 3 ทรงออกพระราชกฤษฎีกาห้ามเล่นฟุตบอล เพราะจะรบกวนการยิงธนู
  • ปี พ.ศ. 2104 – Richardo Custor อาจารย์สอนหนังสือชาวอังกฤษกล่าวถึงการเล่นว่า ควรกำหนดไว้ในบทเรียนของเยาวชน โดยได้รับอิทธิพลจาการเล่นกาลซิโอในเมืองฟลอเร้นท์
  • ปี พ.ศ. 2123 -Riovanni Party ได้จัดพิมพ์กติการการเล่นคาลซิโอ
  • ปี พ.ศ. 2223 -ฟุตบอลในประเทศอังกฤษได้รับพระบรมราชานุเคราะห์จากพระเจ้ชาร์ลที่ 2
  • ปี พ.ศ. 2391 -ได้มีการเขียนกฎข้อบังคับเคมบริดจ์ขึ้นเป็นครั้งแรก
  • ปี พ.ศ. 2406 -ได้มีการก่อตั้งสมาคมฟุตบอลขึ้น
  • ปี พ.ศ. 2426 -สมาคมฟุตบอลจักรภพ 4 แห่ง ยอมรับองค์กรควบคุม และจัดตั้งกรรมการระหว่างชาติ
  • ปี พ.ศ. 2429 -สมาคมฟุตบอลเริ่มทำการฝึกเจ้าหน้าที่ที่จัดการแข่งขัน
  • ปี พ.ศ. 2431 -เริ่มเปิดการแข่งขันฟุตบอลลีก โดยยินยอมให้มีนักฟุตบอลอาชีพ และเพิ่มอำนาจการควบคุมให้ผู้ตัดสิน
  • ปี พ.ศ. 2432 -สมาคมฟุตบอลส่งทีมไปแข่งขันในต่างประเทศ เช่น เยอรมันไปเยือนอังกฤษ
  • ปี พ.ศ. 2447 – ก่อตั้งฟีฟ่า ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงปารีส เมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 โดยสมาคมแห่งชาติคือ ฝรั่งเศส เบลเยียม เดนมาร์ก สเปน สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์
  • ปี พ.ศ. 2480 – 2481 -ข้อบังคับปัจจุบันเขียนขึ้นตามระบบใหม่ขององค์กรควบคุม โดยใช้ข้อบังคับเก่ามาเป็นแนวทาง

ข้อมูลจาก : การกีฬาแห่งประเทศไทย

อ้างอิงจาก : http://www.educatepark.com/story/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5/

ปรัชญาวิทยาลัยเทคโนโลยัสารสาสน์กนกอนุสรณ์



 

ปรัชญาคุณธรรม นำวิชา พัฒนาตน
คติพจน์ทำอะไร  ทำจริง
Age Quad Agis

วิสัยทัศน์
มุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม ความรู้ ความสามารถและทักษะวิชาชีพตามมาตรฐานอย่างมีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับนับถือของสังคมได้อย่างมีความสุข


อ้างอิงจาก : http://www.skctech.ac.th/service/9/

ประวัติของวิทยาลัยเทคดนโลยีสารสาสน์กนกอนุสรณ์

 ประวัติของวิทยาลัยเทคโนโลยีสารสาสน์กนกอนุสรณ์

                เดิมได้ก่อตั้งเมื่อปี พุทธศักราช 2507 โดยมีนายกนก  ลี้อิสระนุกูลและนางโสภา ลี้อิสระนุกูล เป็นผู้ประกอบการสร้างสถาบันการศึกษาแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ และเป็นการแสดงความกัตญญูกตเวทีต่อบิดามารดาผู้มีบุญคุณอันสูงสุด มีวัตถุประสงค์แน่วแน่ในการให้การศึกษาแก่เยาวชน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ได้จัดตั้งเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2508 ตั้งอยู่เลขที่ 143 ซอยจันทน์43 ถนนจันทน์ (ซอยวัดไผ่เงิน) แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โดยนางสาวศรีวัฒนา  ลี้อิสสระนุกูล เป็นผู้รับใบอนุญาต ผู้จัดการและครูใหญ่ เปิดทำการสอน เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2508 บนเนื้อที่ 3 ไร่ 5 ตารางวา จำนวนอาคารเรียน 2 หลัง ประกอบด้วยตึกขนาด 3 ชั้น 1 หลัง และตึกขนาด  2 ชั้น 1หลัง มีจำนวนห้องเรียน 19 ห้องเรียน เป็นสอนแผนกพาณิชยการ วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2508 เปลี่ยนชื่อโรงเรียนกนกอาชีวศึกษา เป็น โรงเรียนช่างกลกนกอาชีวศึกษา และขอเพิ่มหลักสูตร แผนกช่างกล
     พ.ศ.2512 มีการก่อสร้างอาคารเรียน 4ชั้น 1หลัง และขออนุญาตได้ขยายห้องเรียน เพิ่ม 21 ห้องเรียน รวมเป็น 40 ห้องเรียน
     พ.ศ.2518 โอนกิจการให้ มูลนิธิกนก-โสภา ลงนามแทนโดยนายปริญญา ลี้อิสสระนุกูลและนายวิทยา  ลี้อิสสระนุกูล ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต และแต่งตั้ง นายวิจารณ์ ก้องสมุทร เป็นผู้จัดการ
     พ.ศ.2524 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2524 เปลี่ยนชื่อโรงเรียนจากเดิม โรงเรียนช่างกลกนกอาชีวศึกษา เป็น โรงเรียนเทคนิคกนกอาชีวศึกษา และขอเพิ่มหลักสูตรวิชาอุตสาหกรรม  วิชาพาณิชยกรรม รอบบ่าย วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2524 ได้ขอเปลี่ยนจากเดิมโรงเรียนเทคนิคกนกอาชีวศึกษา เป็น โรงเรียนกนกเทคโนโลยี และขอเพิ่มหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี,สาขาวิชาเลขานุการ,สาขาวิชาการธนาคารและธุรกิจการเงิน,สาขาเทคนิคการตลาดและการขาย และดำเนินการบริหารงานโรงเรียนจนถึงปี พ.ศ. 2538 และหยุดกิจการ ปี พ.ศ. 2539

     พ.ศ.2540 ทางมูลนิธิกนกโสภา ได้มอบความไว้วางใจให้โรงเรียนในเครือสารสาสน์ เข้ามาดำเนินกิจการโดย นายพิบูลย์ ยงค์กมล ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต ผู้จัดการ และได้เปลี่ยนชื่อจากโรงเรียนกนกเทคโนโลยี เป็นโรงเรียนสารสาสน์บริหารธุรกิจกนกอนุสรณ์ เปิดทำการสอนแผนกพาณิชย
กรรม แผนกศิลปกรรม และแผนกบริหารธุรกิจ
      พ.ศ.2554 ทางโรงเรียนสารสาสน์บริหารธุรกิจกนกอนุสรณ์ ได้จัดทำตราสารจัดตั้งโรงเรียน
-  ขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้งโรงเรียน หมวดระเบียบการของโรงเรียน ข้อ 26(2)จากเดิม "อายุอย่างต่ำตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป" เปลี่ยนเป็น "อายุอย่างต่ำตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป"
-  ขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสาร หมวดข้อดังนี้ โรงเรียนนี้มีชื่อว่า จากเดิม"โรงเรียนสารสาสน์บริหารธุรกิจกนกอนุสรณ์ เปลี่ยนเป็น "วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสาสน์กนกอนุสรณ์" เดิมใช้อักษรย่อว่า "ส.บ.ก." เปลี่ยนเป็น "ว.ส.ก." ซื่อภาษาอังกฤษว่า "SARASAS KANOK-ANUSORN TECHNOLOGICAL COLLEGE" ใช้อังกฤษว่า S.K.C.
-  ขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้งโรงเรียน หมวดข้อตามของโรงเรียน เป็นรูปวงกลม 2วงซ้อนกัน วงนอกเส้นผ่าศูนย์กลาง 4,5 ซ.ม.วงในเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5 ซ.ม. ระหว่างเส้นรอบวง ด้านบน มีชื่อ "วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสาสน์กนกอนุสรณ์" ด้านล่าง "เขตสาทร กรุงเทพมหานคร"
     พ.ศ.2556 ขอเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับกิจการของสถานศึกษา ส่วนที่ 2 หลักสูตร วิธีการเรียนการสอนและการวัดผลปละประเมินผล ข้อ 2.2 หลักสูตรที่เปิดสอนโดยให้เพิ่มหลักสูตร ปวช. ของกระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา)ประเภทวิชาศิลปกรรม สาขาวิชาศิลปกรรม สาขางานดนตรีสากล ทั้งรอบเช้าและรอบบ่าย ได้ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
     พ.ศ.2557 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของวิทยาลัยเทคโนโลยีสารสาสน์กนกอนุสรณ์ ส่วนที่ หลักสูตร วิธีการเรียนการสอน และการวัดและการประเมินผลการศึกษา โดยให้ใช้หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. 2556 ของกระทรวงศึกษาธิการ (พัฒนาโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) จัดการเรียนสอนระบบปกติ รอบเช้าและรอบบ่าย ประเภทวิชาพณิชยกรรม สาขาวิชาการบัญชี สาขางานการบัญชี สาขาวิชาการตลาด สาขางานการตลาด สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ประเภทวิชาศิลปกรรม สาขาวิชาการออกแบบ สาขางานการออกแบบ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์ สาขางานวิจิตรศิลป์ สาขาวิชาศิลปการดนตรี สาขางานดนตรี



อ้างอิงจาก : http://www.skctech.ac.th/service/8/

วิธีทำขนมจีบ

วิธีทำ ก๋วยจั๊บน้ำข้น
ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้


 ใครที่ชอบกินติ่มซำสุดอร่อยอย่าง ขนมจีบ ก็คงจะเคยมีความคิดอยากจะลองทำกินเองดูบ้าง ไหนจะถูกบิ๊วด้วยวิธีทำขนมจีบง่าย ๆ ที่เพื่อน ๆ นำมาแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ยั่วกันอยู่เรื่อย ๆ วันนี้กระปุกดอทดคอม ก็เลยนำวิธีทำขนมจีบง่าย ๆ มาฝากกันอีกหนึ่งสูตร จากฝีมือของ คุณอยากให้โลกนี้มีรอยยิ้มเรื่อยไป สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แม่ครัวมือใหม่ที่เพิ่งหัดทำขนมจีบกินเองง่าย ๆ ถ้าอย่างนั้น เราก็ลองไปทำตามกันดีกว่า ว่าจะง่ายอย่างที่บอกไว้หรือเปล่า ตามมาดูมาชมกันเลยจ้า

หมายเหตุ : ขนมจีบ 3 ลูก ให้พลังงานประมาณ 120 กิโลแคลอรี่
ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้

ส่วนผสม
           
           รากผักชี
           หมูสับ
           ไข่ไก่
           น้ำมันงา
           พริกไทยป่น
           น้ำปลา
           น้ำตาลทราย
           แครอทหั่นเต๋าเล็ก
           ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม
           แผ่นเกี๊ยว
           กระเทียมสับ

 วิธีทำ
ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           โขลกรากผักชีให้ละเอียด

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           นวดผสมหมูสับกับรากผักชีโขลก ไข่ไก่ น้ำมันงา พริกไทยป่น น้ำปลา น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาวเห็ดหอมให้เข้ากันดีด เตรียมไว้

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
ใช้แก้วครอบ เป็นตัวช่วย

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           ตัดแผ่นเกี๊ยวเป็นแผ่นวงกลม เตรียมไว้

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           เตรียมส่วนผสมสำหรับห่อ และเตรียมน้ำเปล่าใส่ถ้วยไว้เล็กน้อย

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           วางแผ่นเกี๊ยวลงบนมือ

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           ตักส่วนผสมหมูใส่ประมาณ 2 ช้อนชา รวบจับจีบให้สวยงาม ทำจนหมด

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           วางขนมจีบลงในหม้อนึ่ง พรมน้ำให้ทั่ว นำไปนึ่ง ใช้ไฟปานกลางจนสุก

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           นึ่งจนสุก จัดใส่จาน

ขนมจีบ วิธีทำขนมจีบ สูตรมือใหม่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
           โรยกระเทียมเจียว และผักชี พร้อมเสิร์ฟ
           
          ว้าว ! ขนมจีบจานนี้หน้าตาดีทีเดียวเลยนะคะเนี่ย ถ้าไม่บอกว่าเป็นสูตรของมือใหม่ คงไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าดเพิ่มหัดทำ เอ้า ! ใครที่อยากจะลองทำขนมจีบแบบนี้กินเองดูบ้าง จะมามัวรอช้าอยู่ทำไมเล่า ลุย !